พุยพุย

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2559

ครั้งที่ 4

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 4
วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม 2559
เวลา 14.30 - 17.30 น.

เนื้อหาการเรียน
         วันนี้เริ่มการเรียนด้วยการเล่นเกมส่งเสริมเรื่องการสื่อสาร มีเกมสื่อความหมาย เกมกระชิบสื่อความหมาย เกมคำใบ้สื่อความหมาย และเกมใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร กับใคร แล้วเริ่มเรียนเนื้อหาของวันนี้เกี่ยวกับการสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย ว่าจะมีวิธีการสื่อสารอย่างไรให้ผู้ปกครองและเด็กเข้าใจ เวลาขอความช่วยเหลือหรือบอกพัฒนาการของเด็กให้ผู้ปกครองทราบ หรือเวลาสั่งการบ้านเด็ก เนื่องจากคนแต่ละคนก็มีพื้นฐานไม่เหมือนเดิม






การนำไปประยุกต์ใช้
        สามารถนำการเรียนวันนี้ไปปรับใช้ในอนาคตได้ ถึงการพูด การสื่อความหมายให้เกิดประสิทธิภาพ

การประเมิน
        วันนี้เรียนสนุก และตั้งใจเรียนมากกว่าปกติ

คำถามท้ายบทที่ 3
1. จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
   - ความหมายการสื่อสาร  (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก   ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
       ความสำคัญทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ และช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
    1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
  2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
  3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
  4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
  5.ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
    - ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)ข้อมูลข่าวสาร (Message)สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
ผู้รับข่าวสาร (Receivers) ความเข้าใจและการตอบสนอง
4. ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
    -  เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
      •เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
      •มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
      •เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
      •เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
      •ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้นตอน
      •เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
5. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
    - 1.ความพร้อม  คือ สภาพความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้ โดยเตรียมความพร้อมในเรื่องดังนี้ พื้นฐานประสบการณ์เดิม สร้างความสนใจเห็นเห็นถึงความสำคัญของความรู้ ส่งเสริมความเชื่อมั่นในการเรียนรู้  
      2. ความต้องการ คือ ความต้องการให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข เช่น ต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง มีการศึกษาที่ดี
  
3. อารมณ์และการปรับตัว คือ  แนวโน้มที่จะปฏิบัติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มี 2 ประเภทคือ  อารมณ์ทางบวก เช่น ดีใจ พอใจ ฯลฯ อารมณ์ทางลบ เช่น โกรธ เสียใจ หงุดหงิด  ซึ่งอารมณ์ทั้ง 2 นี้มีผลต่อการเรียนรู้ ดังนั้นควรปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลพร้อมที่จะเรียนรู้  
      4. การจูงใจ หมายถึง การกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้  เช่น ต้องการรู้เพื่อแก้ปัญหาลูกหลาน ต้องการรู้เพื่อพัฒนาลูก ต้องการรู้เพื่อให้ลูกเป็นคนดี  
      5. การเสริมแรง คือ การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง เช่น คำชมเชย รางวัล ฯลฯ
      6. ทัศนคติและความสนใจ คือ การที่บุคคลมีการตอบสนองและแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่างๆ เช่น    - จัดสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทำให้ผู้ปกครองพอใจและสนุกกับการเรียนรู้    - ช่วงเวลาในการจัดให้ความรู้ ควรมีเวลาที่สะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม  
      7. ความถนัด คือ ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น